ดอกหญ้ากำหนึ่ง
ฉันเป็นลูกเจ้าของร้านดอกไม้เล็กๆแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ในแถบชานเมือง อยู่ห่างไกลจากตัวจังหวัดมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอแต่ทุ่งหญ้าเขียว ดอกไม้นานาพันธุ์ และสายน้ำเย็นฉ่ำที่ไหลอยู่ข้างถนน ซึ่งนานๆจะมีรถขับผ่านมาซักคัน
ฉันอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาว เรา3คนแม่ลูกแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ตอนเช้าแม่ฉันจะเป็นคนเฝ้าร้าน ส่วนตอนเย็นหลังเลิกเรียนฉันกับพี่ก็จะกลับมาเฝ้าร้านแทนแม่ ส่วนแม่ฉันไปไหนน่ะเหรอ แม่ฉันก็จะเอาดอกไม้ไปส่งในเมืองกลับมาอีกทีก็อาจจะมืด
แม่ฉันเคยบอกฉันว่า ตอนแม่เป็นสาวแม่เป็นคนจีบพ่อก่อน แม่จะชอบเอาดอกไม้ให้พ่อมากกว่าส่งจดหมาย แม่บอกว่าดอกไม้มันสามารถทำให้เรารู้ว่าคนๆนั้นใส่ใจเรามากแค่ไหน...ถ้าเค้าใส่ใจเราเค้าก็จะพยายามหาความหมายของมันเพื่อจะได้รู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ส่งผ่านดอกไม้ดอกนั้นมา และพ่อของฉันก็เป็นคนค้นหาความหมายนั้นและได้แต่งงานกับแม่จนมีฉันกับพี่
แม่ฉันเป็นนักจัดดอกไม้ฝีมือดี พ่อฉันเป็นคนตกงานไม่มีที่ไป ส่วนฉันกับพี่เป็นแค่นักเรียนมัธยมธรรมดา ฉันกับพี่อายุห่างกันแค่ปีเดียวจึงทำให้เรารักกันมาก คนอื่นจึงมักมองเราเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่าพี่น้อง แต่ถึงจะรักกันมากยังไงฉันกับพี่ก็ไม่ได้มีนิสัยเหมือนกันหรอกนะ พี่ฉันน่ะมีแต่คนเกรงขามไม่กล้าหือด้วย เป็นคนหน้าตาดี(ในสายตาฉัน) และเป็นคนที่ฉันคิดว่าเพอร์เฟ็คมาก ส่วนฉันก็ไม่มีอะไรเป็นเด็กนร.ธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่นชีวิตจืดชืดไร้สีสรรกีฬาก็ไม่เก่ง เรียนก็ไม่รู้เรื่อง แต่ฉันก็พยายามที่จะทำให้ได้เหมือนพี่ เพราะฉันแอบชอบเพื่อนคนนึง ที่อยู่ข้างบ้านฉัน เขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน แต่ก็มีบางครั้งที่ดูเหี้ยมโหด เขาเป็นคนที่หน้าตาดี แต่บางครั้งก็ชอบทำอะไรที่มันทุเรศเพื่อให้ฉันขำ เค้าเป็นคนที่พิเศษกว่าใครๆที่ฉันเคยพบ และเค้าก็เป็นคนที่ฉันไม่อยากบอกความรู้สึกที่แท้จริงของฉันให้เค้ารู้เลย
เพื่อนคนนี้ของฉันเป็นคนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ บ้านของเค้าอยู่ติดกับบ้านฉัน ฉันมักจะเล่นกับเขาบ่อยๆ ถึงแม้ฉันจะแพ้เขาตลอดก็ตาม ฉันพยายามเล่นกีฬาให้เก่งเพื่อที่จะได้เล่นกับเขาไปเรื่อยๆ และฉันชอบเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มาจากใจของเขา ซึ่งเขาก็มักจะทำเวลาที่เขาได้เล่นกีฬา ฉันหวังจะให้เค้าได้เจอกับคนที่ใช่เร็วๆ เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวด ไม่ต้องมาพยายามให้เหนื่อยใจ เพราะฉันรู้ว่าไม่ว่าจะทำยังไง เขาก็ไม่เคยคิดกับฉันเลยคำว่าเพื่อนเลย
ความสัมพันธ์ของเขากับฉันเหมือนมีเส้นใยๆบางๆที่กั้นกลางระหว่างเรา2คน ที่ไม่อาจจะล้ำเกินได้ ไม่ว่าฉันหรือเค้าก็ไม่สามารถทำได้ และฉันคิดว่าฉันคงจะไม่หวังอะไร เพราะ แค่ได้เป็นเพื่อนกัน เพียงเท่านี้ก็ทำให้ฉันมีความสุขมากพอแล้ว
ฉันหวังว่าฉันจะได้เจอคนที่รักฉันจริงอย่างแม่กับพ่อฉัน อย่างที่บอกไปพ่อฉันเป็นคนตกงาน แต่ว่าเมื่อก่อนพ่อฉันเคยทำงานมาก่อนนะ เป็นพนักงานบริษัทอยู่ในเมือง แต่พอบริษัทล้มละลาย พ่อฉันจึงกลายเป็นคนตกงานเพียงชั่วข้ามคืน พ่อฉันพยายามหางานทำ ไปสมัครงานมาหลายที่ แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับพ่อฉันเลย เพราะ พ่อฉันเป็นคนซื่อ พูดอะไรตรงๆ เลยกลายเป็นเหตุทำให้พ่อฉันตกงานมาจนถึงทุกวันนี้ แม่ฉันเลยแนะนำให้พ่อฉันไปหางานทำในตัวจังหวัดแล้วให้พ่ออาศัยอยู่กับเพื่อนแม่ที่เป็นผู้ชาย ฉันมักจะถามแม่ว่า
'พ่ออยู่ไกลขนาดนี้ นานๆทีก็จะกลับบ้าน แล้วแม่ไม่กลัวพ่อนอกใจแม่หรอ'
แม่ฉันก็จะตอบว่า
'แม่ไม่กลัวหรอกลูก เพราะว่า ไม่มีใครที่ไหนจะรักพ่อไปมากกว่าแม่อีกแล้ว'
ฉันว่ามันอาจจะจริงอย่างที่แม่พูดก็ได้ว่าไม่มีใครที่จะรักพ่อไปได้มากกว่าแม่อีกแล้ว เพราะ เวลาที่พ่อกลับมาไม่ว่าพ่อจะเศร้า หรือโกรธใคร อะไรมา แม่ก็จะให้ดอกไม้ที่แสดงถึงความหมายที่ว่า ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ แล้วพ่อฉันก็จะกอดแม่ พี่ และฉัน เหมือนความทุกข์เหล่านั้นได้จางหายไปแล้ว และฉันก็หวังว่าสักวันความรักของฉันก็คงจะน่าประทับใจไม่แพ้ของพ่อกับแม่ฉันแน่นอน
ฉันเรียนอยู่ที่รร.ประจำหมู่บ้าน เป็นรร. เล็กๆมีตั้งแต่อนุบาลยันม.ปลาย และใช่เลย ฉันกับเขาก็เรียนอยู่รร.เดียวกันอย่างแน่นอน ที่รร.ทุกคนรู้ว่าฉันกับเขาสนิทกันมากบางคนก็คิดว่าฉันกับเขาคบกันอยู่ แต่ฉันก็มักจะปฏิเสธไปตลอด ถึงแม้ฉันจะอยากให้มันเป็นจริงก็ตาม แต่ยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้ อย่างที่บอกฉันเป็นคนที่แสนจะธรรมดา ส่วนเขาเป็นคนที่หาข้อติไม่ได้ ตั้งแต่หน้าตา นิสัยใจคอ การเรียน ฐานะ มันช่างหาข้อติไม่ได้จริงๆ และอีกอย่างเขาก็เป็นหนุ่มป๊อปประจำรร. ไม่ว่าใครก็อยากจะคบกับเขาทั้งนั้น บางครั้งคนที่ชอบเขาอาจจะเป็นคนที่ดีกว่าฉันก็ได้ ฉันขอหลีกทางให้ล่ะกันนะ
อย่างเช่นวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่มีคนมาขอให้ฉันเอานู่นเอานี่ไปให้เขา แต่ก่อนก็มีคนฝากฉันให้เอาไปให้นะ แต่หมู่นี้นี่รู้สึกว่าจะบ่อย หรือว่าเขากำลังอยู่ในวัยกำลังโตเลยทำให้เขาดูเนื้อหอมมากขึ้นกันแน่นะ และวันนี้ตอนเย็นฉันก็ไปหาเขาเพื่อที่จะกลับบ้านและเอาของที่มีคนฝากไปให้เขาด้วย เขามองของในมือฉันก่อนที่จะเงยหน้ามามองฉันแล้วถอนหายใจดังๆออกมาครั้งนึง เขาทำปากยื่นๆเพื่อที่จะบอกฉันว่าเบื่อ แต่จะทำไงได้ล่ะก็นายอยากทำตัวเนื้อหอมใส่คนอื่นเขาดีนัก สมแล้วล่ะที่มีคนมาจีบเยอะอย่างนี้ เขากับฉันเดินบ่นมาตลอดทางจนถึงบ้านฉัน แล้วเรา2คนก็ร่ำรากันไปเพราะฉันต้องอยู่เฝ้าร้านกับพี่
"ฮั่นน้อวว! ใครมาส่งหรอจ้ะ"
"โอ้ะ! พี่นี่!ล้ออยู่ได้ก็เดินกลับด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆล่ะ"
"อะจ่ะๆๆๆๆไม่ล้อไม่ล้อ ฉันรู้ว่าเธอเขิน" พี่พูดไปมือก็เขี่ยหน้าฉันไปด้วยพี่กำลังทำให้ฉันเขินนะ แต่ไม่ได้ๆต้องเก้กขรึมไว้เพราะเดี๋ยวพี่จะได้ใจ
"-__-;"
"คิกๆๆๆ"
พี่นี่ก็จะล้อฉันไปถึงไหน ฉันชักจะโมโหแล้วนะ แต่ถึงยังไงพี่ก็เป็นพี่นี่นะถ้าพี่ไม่ล้อฉัน แล้วใครจะมาสนใจคนอย่างฉันอีก
เอ้อ พูดไปพูดมาก็ผ่านไปอีกวันละ แต่มันก็ยังเหมือนเดิมยังมีคนฝากของมาให้เขาเหมือนเดิม ความจริงฉันก็รู้สึกว่าฉันทำอย่างนี้มาได้สักพักแล้วแหละ เริ่มเบื่อล่ะนะ และแล้ววันนี้ฉันก็เอาของไปให้เขาอีกจนได้ แต่หมู่นี้เขาดูแปลกไปเขาดูเหมือนพยายามตีตัวออกห่างจากฉัน เวลาเพื่อนเขามาหาตอนฉันเดินกลับบ้านกับเขา เขาก็มักจะเดินไปคุยกับเพื่อนลากเพื่อนเขาไปคุยกันไกลๆแล้วก็บอกฉันว่า จะไปก่อนก็ได้นะ
ตอนเย็นฉันกลับบ้าน ฉันรู้สึกว่าหมู่นี้ฉันเหมือนอยู่ตัวคนเดียวมากทั้งที่ฉันก็มีเพื่อนมากมาย และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันนับตั้งแต่วันนั้นที่ฉันต้องเดินกลับบ้านคนเดียว ปกติฉันจะเดินกลับพร้อมเขา ไม่ว่าฉันจะททำการบ้านมืดหรือดึกแค่ไหนฉันก็จะต้องเดินกลับไปพร้อมกับเขา ถ้านับๆดูแล้วนี่ก็ผ่านมาจะสัปดาห์นึงละนะที่ต้องเดินกลับคนเดียว
สุดท้ายฉันก็เดินเข้าไปในร้านด้วยหน้าเซ็งๆแล้วพี่ฉันก็พูดว่า
"อะไรกัน วันนี้เขาไม่มาส่งอีกแล้วหรอ"
".............."
"เฮ้ออ นี่เธอรู้ไหมว่าผู้ชายอย่างเขาน่ะถ้าไม่บอกไปว่ารู้สึกยังไง เขาก็ไม่รู้หรอก ยิ่งเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ ยิ่งไม่รู้เข้าไปใหญ่"
"หนูไม่ได้ชอบเขา"
"ถ้าไม่ได้ชอบเขาแล้วทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นด้วยล่ะ" เมื่อพี่พูดจบฉันก็หันไปมองหากระจกที่ติดอยู่ข้างผนังห้อง มันทำให้ฉันเข้าใจความรู้สึกของตัวเองที่เก็บกดมานาน ใช่แล้วฉันชอบเขา เงาฉันที่สะท้อนในกระจกเหมือนคนจะร้องไห้ ยิ่งฉันเห็นใบหน้าของฉันมันก็ยิ่งตอกย้ำตัวเอง มันยิ่งทำให้ฉันอยากร้องไห้มากกว่าเดิม
"เป็นไงล่ะ พี่น่ะรู้นะว่าเธอรู้สึกยังไง บอกพี่มาเถอะ ระบายออกมาให้พี่ได้รับรู้บ้าง"
"ฮึกๆ พี่คะ....." ฉันยังไม่ทันพูดพี่ฉันก็ขยับตัวฉันแล้วเอาหน้าฉันไปซุก ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของพี่ แล้วก็เอามือมาลูบผมอันยาวสลวยของฉัน
อันที่จริงฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไร ฉันแค่ไม่ชอบที่มีคนให้ฉันเอาของไปให้เขา ฉันพยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจกลับเจ็บปวด ยิ่งเค้าทำตัวเหินห่างจากฉันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกโกรธตัวเอง โกรธที่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองดู แล้วก็ยอมเป็นสะพานให้คนอื่นมาเดินข้ามไปหาเขาต่อไป แม้ใจฉันจะอยากขัดขวาง แด่จิตใต้สำนึกมันก็คอยย้ำเตือนฉันตลอดว่า อย่าๆ มันไม่ดี ถ้ารักเขาก็ต้องปล่อยให้เขามีความสุขสิ...เราก็แค่เจ็บ...เท่านั้นเอง
ฉันร้องไห้จนไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่รู้แค่ว่า พี่ฉันก็นอนอยู่ด้วยข้างๆ นั่นก็ทำให้ฉันรู้ว่าพี่ฉันไม่ได้หนีไปไหน พี่ยังอยู่ข้างฉันตลอดเวลา แล้วฉันก็ไปรร.วันนี้มีคนฝากของฉันมากกว่าปกติ ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างดลใจให้ฉันปฏิเสธพวกเขาไป และทุกอย่างก็ผ่านไปอย่างปกติ
พอตอนเย็นฉันลงมาจากตึกเรียนเห็นเขาเตะบอลอยู่กับเพื่อนในสนาม ฉันมองดูเขาอยู่ห่างๆ ตอนนั้นเองที่เพื่อฉันชวนฉันไปร้องคาราโอเกะที่บ้าน ตอนแรกฉันก็ลังเลว่าจะไปดีไหม แต่พอมานึกๆดูแล้วถึงฉันไม่ไป ถึงฉันจะนั่งรอเขาเล่นจนเสร็จ เขาก็คงไม่กลับกับฉันอยู่ดี ฉันเลยตัดสินใจไปกับเพื่อน แต่ก่อนไปเพื่อนฉันบอกว่าให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อน เพราะที่บ้านส้วมตัน ฉันเลยไปเข้าห้องน้ำ
พอฉันออกจากห้องน้ำกำลังจะมาล้างมือฉันก็เจอคนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุด นั่นก็คือ'เขา'นั่นเอง เขาทำท่าเหมือนจะทักฉัน แต่เพื่อนเขาก็มาซะก่อน ฉันจึงรีบเดินไปจากตรงอ่างล้างมือ
ฉันเดินออกมาจากตรงอ่างล้างมือฉันก็เจอเพื่อนฉันที่กำลังจะมาตามฉัน แต่ใบหน้าฉันในตอนนี้เหมือนคนจะร้องไห้ และฉันก็อยากจะร้องไห้มากแล้วด้วย ฉันจึงโกหกเพื่อนฉันว่าฉันไม่ไปแล้ว เพราะฉันท้องเสีย แต่แล้วก็มีคนที่เดินมาจากอ่างล้างมือ ด้วยท่าทีรีบร้อน'เขา'เดินมา ก่อนที่จะหยุดชะงักเมื่อเห็นฉันคุยกับเพื่อนแล้วเดินออกไปจากโรงเรียน เขารีบเดินตามฉันแล้วก็ตะโกนเรียกฉัน ก่อนที่จะวิ่งมาหาฉัน เขาหยุดวิ่งเมื่อรู้ว่าระยะห่างมันเริ่มน้อยลงแล้ว ฉันไม่หันหลังไปมองหน้าเขาเพราะ ฉันไม่อยากให้เขาเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของฉัน เขาไม่เคยเห็นฉันร้องไห้เลยนอกจากตอนที่ฉันหกล้ม เมื่อตอนยังเด็กเท่านั้น
"เธอจะไปไหนน่ะ ฉั......."
"นายไม่ต้องตามฉันมาหรอก กลับไปเล่นกับเพื่อนนายก่อนก็ได้ ฉันจะกลับบ้านเอง" ยังไม่ทันได้พูดจบเขาก็รีบวิ่งมาอยู่ตรงหน้าฉัน ก่อนที่จะถามฉันว่า "เธอเป็นอะไร หมู่นี้เธอดูแปลกไปนะ"
"ฉันแปลกยังไงหรอ ฉันว่าฉันก็ปกติดีนี่ นายน่ะแหละถ้ายังไม่กลับไป เดี๋ยวเพื่อนนายก็ว่าหรอก" ฉันพูดไปพลางหลบสายตาของเขาไปด้วย
"พวกมันว่าฉันไม่ได้หรอกเพราะวันนี้เป็นวันเกิดฉัน" อ๋อ ไม่น่าล่ะวันนี้เลยมีคนฝากให้ของฉันมามากกว่าปกติที่แท้ก็วันเกิดเขานั่นเอง ที่ฉันจำไม่ไดไม่ใช่เพราะว่าแกล้งลืมหรืออะไรหรอกนะ แต่เขาเคยบอกฉันว่าเมื่อถึงวันเกิดเขาจะไม่มารร.เพราะต้องไปฉลองกับพ่อแม่ ฉันก็เลยจำไม่ได้ว่าวันไหนกันแน่
"หรอ สุขสันต์วันเกิดนะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเครือ ฉันว่าเขาคงรู้แล้วล่ะว่าฉันร้องไห้อยู่ ฉันคงอยู่ไม่ได้แล้วอย่างน้อยฉันก็ขอเดินไปที่ไหนก็ได้ ที่ไกลจากเขา แล้วก็ขอร้อง.....อย่าตามฉันมาเลยนะ
"แล้วนั่นเธอจะไปไหนน่ะ.......นี่.....เธอ...ร้องไห้หรอ" เขาเดินเข้ามาเรื่อยๆ เพราะเห็นฉันเดินถอยหนี
เขาเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนฉันจากที่เดินถอยหลัง ก็กลับหลังหันแล้ววิ่งหนีเขา เขาวิ่งตามฉันแล้วก็หยุดชะงักฝีเท้า เพราะเห็นว่าฉันหยุดวิ่งแล้ว
"เธอเป็นอะไรไปน่ะ!บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร!ฉันแค่....แค่...โกรธตัวเอง" ฉันรีบโพล่งขึ้นมาก่อนที่เขาจะเดินเข้าใกล้มากว่านั้น จนทำให้เขาหยุดเดิน
"โกรธตัวเอง...โกรธเรื่องอะไรล่ะ"
"ก็วันนี้ที่ฉันไม่ได้เอาของที่พวกแฟนคลับนายมาให้..."
"....."
"ก็บางครั้งฉันก็เบื่อนี่นา.....ฝากฉันอยู่ได้ทุกวัน....ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดที่จะมาหานายได้ทุกวันนี่.....ฉันก็เลย..ปฏิเสธพวกเขาไป"
"......."
"อยู่บ้านฉันก็ต้องเฝ้าร้าน...ใครจะว่างขนาดนั้น"
"......."
"แม้ฉันจะอยากกลับกับนาย..มากก็ตาม..."
"...อ่ะ...."
".....ถึงฉันจะไปรอนายทุกวัน ฉันก็คงได้แต่รอนายไปเรื่อยๆ...อย่างไม่มีจุดหมายเพราะ ยังไงนายก็ต้องทิ้งฉันให้กลับบ้านคนเดียวอยู่ดี" เสียงฉันเริ่มสั่นเครือหนักกว่าเก่า น้ำตามันไหลมากกว่าตอนที่เขามายืนอยู่หน้าฉันอีก....มันคงเป็นเพราะ ความจริงในใจของฉันนั้น ฉันได้พูดออกมาจนจะหมดแล้ว ตอนนี้ในหัวฉันมันว่าง โล่ง มันไม่มีอะไรเลย แต่ใจของฉันมันกลับเต้นแรงมาก ทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเลย
"ฉันขอโทษนะ..." พอฉันพูดจบฉันก็รีบหันหลังกลับไปทางบ้านฉันตามที่ฉันคิดจะทำตั้งแต่แรก ฉันรีบก้มหน้าแล้วเดินไปโดยที่มีเขายืนขวางทางอยู่ ถ้าฉันเดาไม่ผิดตอนนี้เขามองมาที่ฉันแล้วคงจะทำหน้าตกใจ หึ!ใครจะไปคิดว่าเพื่อนสนิทอย่างฉันจะพูดอะไรแบบนี้ออกไป ทั้งที่ปกติเจอหน้ากันก็แค่เล่นด้วยกัน ไม่เคยพูดอะไรอย่างนี้เลย ฉันคงต้องรีบเดิน เพราะ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องรีบมาเค่นถามฉัน แล้วฉันก็อาจจะเผลอพูดออกไปว่า ฉันรักเขา ก็ได้
"นี่!" เขาหันมาทางฉันที่กำลังเดินกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเอง แล้วรีบวิ่งมากระฉากแขนของฉันให้หันไปปะทะกับเขา ฝ่ามือของเขาจับแขนทั้ง2ข้างของฉันไว้แน่น หน้าเขาที่มองมาทางฉันทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง อย่างช่วยไม่ได้
"ถ้าเธอจะขอโทษฉันน่ะ.......ไม่ต้องหรอก"
"....ทำไ...."
"เพราะฉันก็เคยทำเหมือนเธอ"
"........."
"เธอรู้ตัวไหมว่าหลายปีที่ผ่านมานี่ เธอเปลี่ยนไปมากขนาดไหน"
"........."
"ฉันว่าเธอคงไม่รู้ตัว แต่เราก็โตๆกันมากแล้ว แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้ทำเรื่องเลวร้ายกับเธอได้หรือเปล่า เธอก็ลองคิดดูสิผู้หญิงกับผู้ชายเดินกัน2คนท่ามกลางถนนที่นานๆทีจะมีรถผ่านมา ท้องฟ้าก็มืด บรรยากาศก็ดี แล้วยิ่งอยู่กับเธอสองต่อสองไม่ว่าใครก็ต้องคิดจะทำเรื่องอย่างนั้นทั้งนั้นแหละ"
"..........." นัยน์ตาฉัน ถูกเขาจ้องจนไม่สามารถละสายตาเขาได้ สายตาที่ดูร้อนแรงเหมือนกับสามารถกลืนกินฉันได้ทั้งตัวเลยทีเดียว
"เธอน่ะเป็นคนที่สวยนะรู้ไหม......" เขาพูดไปมือก็พลางลูบไล้ใบหน้าฉันไปด้วย ไล่ตั้งแต่หน้าผากมายังแก้ม มายังริมฝีปากของฉัน
"ที่ฉันต้องทิ้งเธอแล้วไปกับเพื่อนน่ะ ก็เพราะว่าพวกเพื่อนฉันน่ะมันชอบเธอ แต่ฉันก็ไม่อยากให้พวกมันมายุ่งกับเธอฉันก็เลยต้องหาเรื่องพาเพื่อนฉันไปทำนู่น ทำนี่ อยู่เรื่อย ส่วนของที่พวกแฟนคลับเธอฝากฉันมาให้เธอน่ะ ฉันทิ้งไปหมดเลยล่ะ แต่ถึงแม้พวกมันจะรู้ว่าฉันทิ้ง มันก็ยังฝากฉันมาได้ทุกวี่ทุกวัน"
"...แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันกลับคนเดียวแล้วมันจะปลอดภัย.."
"เพื่อนฉันน่ะ พอรู็้ว่าเธอสนิทกับฉัน พวกมันก็เริ่มมีความเกรงใจน้อยลง แล้วถ้าเกิดมันทำอะไรเธอขึ้นมาเธอรู้ไหมว่าฉันจะรู้สึกยังไง"
"...ยัง..ไง"
"ฉันคงจะต้องเสียใจมากที่ไม่สามารถดูแลคนที่ตัวเองรักได้ดีพอ"
"อย่าบอกนะ..ว่า..."ฉันยังไม่ทันพูดจบเขาก็เลื่อนริมฝีปากเข้ามาใกล้ฉัน เขาค่อยๆบรรจงจูบของเขาบนริมฝีปากของฉัน มือของเขาจากที่จับแขนฉันอยู่ก็เลื่อนลงมาที่เอวฉันแทน ส่วนมืออีกข้างนึงเขาก็เลื่อนขึ้นมาบังคับศีรษะของฉัน เพื่อสนองความต้องการของเขา จูบของเขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาคงต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพื่อปกป้องฉันจากเหล่าพวกผู้ชายเหล่านั้นให้ฉัน
"ใช่...ฉันรักเธอนะ"เขาให้มือที่จับศีรษะฉันเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าของเขาแล้วจุ๊บหน้าผากฉันหนึ่งที
"เอ้ะ!..."
"วันจันทร์หน้าฉันต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และฉันว่าฉันคงอาจจะไม่ได้กลับมาอีก ความจริงแล้ววันนี้ฉันว่าจะชวนเธอไปเที่ยวสักหน่อย แต่ก็ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น...เธอตอบฉันหน่อยสิว่าเธออยากให้ฉันไปหรือเปล่า"
"ฉัน...ฉัน.. "ฉันไม่รู้ว่าฉันควรทำยังไงดีเขาบอกความรู้สึกของเขาแล้ว ฉันจะต้องบอกบ้างไหม ฉันจะทำยังไงดี ระหว่างที่ฉันกำลังอ้ำๆอึ้งๆเขาก็เอามือมาลูบหัวฉัน
"หึ!ในที่สุดเธอก็หยุดร้องไห้แล้วนะ รู้ตัวไหม"
"เอ้ะ!"ฉันเอามือลูบแก้มตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าฉันหยุดร้องไห้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่าเอาเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้วเอามือของเขากุมมือฉัน
"แค่เธอบอกฉันมาว่าไม่ให้ฉันไปทุกอย่างมันก็จบ ฉันก็จะอยู่กับเธอที่นี่ตลอดไป "
ระหว่างที่ฉันกำลังตัดสินใจ ฉันก็ได้ยินเสียงแม่ฉันเรียกฉันอยู่แว่วๆ ฉันจึงรีบหันหลังไป แล้วบอกกับเขาว่า "ขอเวลาฉันคิดก่อน มาถามกันอย่างนี้ใครจะไปตอบได้"
"หรอ ฮ่าๆๆ งั้นฉันจะรอคำตอบเธอ เธอต้องตอบฉันก่อนวันจันทร์ เพราะฉันต้องไปขึ้นเครื่องเวลา 9 โมง อ้อ!ฝากสวัสดีแม่เธอด้วยนะ อีกอย่างหน้าเธอตอนตกใจน่ารักดีนะ ฉันชอบ ไปได้แล้วเดี๋ยวแม่เธอก็ว่าหรอก"
"อื้ม!" ฉันยิ้มให้เขา ก่อนที่จะหันหลังแล้ววิ่งไปหาแม่ฉัน
วันนี้เป็นวันจันทร์ แปปเดียวก็ผ่านมา2วันแล้วนับจากที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ ว่าจะตอบเขายังไงดี แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเลยไม่มีใครไปไหน แล้วฉันก็นึกอะไรดีๆได้
"แม่ค่ะ!"
"อะไรหรอ ห้ะ!"
"แม่เคยบอกว่าตอนแม่จีบพ่อ แม่ให้ดอกไม้พ่อใช่ไหมค่ะ"
"อ๋อ!ใช่มีอะไรล่ะ"
"เปล่าค่ะ หนูแค่ชอบเรื่องที่แม่เล่าให้ฟังเท่านั้น แม่ค่ะนี่กี่โมงแล้วหรอค่ะ"
"7:45 แล้วมีอะไรหรอลูก"
"เปล่าค่ะ" เฮ้อ! คงไม่ทันแล้วล่ะ ป่านนี้เขาคงนั่งรถไปเตรียมจะขึ้นเครื่องแล้วล่ะ....แต่เราอยากเป็นได้แบบเขาจัง อยากบอกความรู้สึกของตัวเองไปบ้าง
"แม่ขา เดี๋ยวหนูมานะ"
"หือ!จะไปไหนหรอ"
"จะไปโรงเรียนค่ะ"
ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนที่ปิดแน่น แต่ใครว่าฉันจะเปิดประตูเข้าไปล่ะ ฉันกับเขาเคยปีนรั้วเข้ารร.ด้วยกันเพราะว่าฉันตื่นสาย เขาเลยพลอยมาสายด้วย
ฉันเดินไปรอบรร.เดินดูสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว มันทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวต่างๆมากมายที่ฉันเคยทำกับเขา แม้ส่วนมากฉันจะเป็นคนผิดแต่เขาก็มักจะยอมรัับผิดแทนฉันเสมอ อย่างแป้นบาสแป้นนั้นฉันเป็นคนทำมันพัง เพราะฉันเผลอโยนลูกเปตองไปโดนแป้น แป้นเลยบุบบี้จนเสียทรง แต่เขาก็รับผิดแทนฉัน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อฉันมาโดยตลอด..ฉันว่ามันคงถึงเวลาที่ฉันจะต้องตอบแทนเขาบ้างแล้ว ในที่สุดฉันก็มายืนอยู่หน้าห้องเรียนของเขา ฉันเดินเข้าไปในห้องแล้วฉันก็ต้องหยุด เมื่อไปเจอโต๊ะที่ติดชื่อของเขา ฉันรีบวิ่งออกไปข้างนอกแล้วไปเด็ดดอกไม้มาหนึ่งกำ แล้ววิ่งกลับมาที่ห้อง แต่แล้วฉันก็เห็นใครบางคนยืนอยู่หน้าโต๊ะของเขา และเอามือมาคลำไปรอบๆโต๊ะ ฉันเดินไปใกล้แล้วฉันถึงได้รู้ว่า คนๆนั้นคือ'เขา'นั่นเอง ฉันเดินเข้าไปพร้อมๆกับเขาเดินเข้ามาหาฉัน
"นายยังไม่ไปอีกหรอ เดี๋ยวก็ขึ้นเครื่องไม่ทันหรอก"
"ยังอ่ะ ฉันยังเอาของไปไม่หมด"
"นายลืมของหรอ ลืมหนังสือเรียนหรือไง"
"เธอก็น่าจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันลืมคืออะไร" ฉันมองหน้าเขา แล้วยิ้มบางๆให้เขา ก่อนที่เขาจะพูดว่า "เธอจะบอกคำตอบฉันได้หรือยัง"
ฉันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ก่อนที่จะพูดต่อ "อื้อ!ฉันก็กำลังจะมาบอกอยู่นี่ไง"
"............."
"ระหว่างทางที่ฉันมาที่นี่ ฉันเจอสถานที่หลายแห่งที่เป็นความทรงจำระหว่างฉันกับนาย ฉันหวังว่าความทรงจำนั้นมันคงไม่จางหายไปถ้านายยังอยู่เคียงข้างฉัน ความทรงจำต่างๆที่ฉันจำได้ ทุกภาพความทรงจำนั้นล้วนมีนายทั้งหมด นายคอยช่วยเหลือฉัน เคียงข้างฉัน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ฉันสบายใจ ฉันคิดว่า..นั่นเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับฉันนะ แต่!..." ฉันหยุดพักหายใจพักนึงก่อนจะพูดต่อว่า "แต่สำหรับนายแล้วฉันว่ามันคงถึงเวลาที่ฉันจะต้องตอบแทนนายบ้าง นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ถ้านายจะได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าฉันยังเป็นเพื่อนนายฉันก็อาจจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า อย่าไปเลยนะ ฉันเหงา..แต่ที่ฉันมาที่นี่ฉันไม่ได้มาในฐานะเพื่อน ฉันมาในอีกฐานะนึง และหน้าที่ของฐานะนั้นคือ....การที่ได้เห็นคนที่เรารักกำลังจะมีความสุข จะมีอนาคตอันก้าวไกล จะมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ ก็สามารถทำให้ฉันมีความสุขแล้ว ดังนั้นเพื่อตัวฉันและนายฉันว่า ถ้านายยังอยู่กับฉัน นายก็อาจจะยังคงเป็นได้แค่คนธรรมดา แต่ถ้านายไปต่อนายก็จะได้สานฝันที่ต้องการได้สำเร็จ"
"แต่ฉันไม่ได้ฝันอะไรสักหน่...."
"นายจะฝันอะไรฉันไม่รู้!แต่ตอนนี้ความฝันอย่างเดียวของฉันคือ.....การที่ได้เห็นนายเดินออกไปจากตรงหน้าฉัน....เดินจากไปด้วยรอยยิ้ม....แล้วเราก็จะกลายเป็นความทรงจำดีๆของกันและกันตลอดไป"พูดจบฉันก็ยื่นดอกไม้ให้เขา"ฉันไม่อยากจะพูดอะไรมาก ฉันให้นี่แทนความรู้สึกของฉัน หวังว่านายคงเดินทางไปได้อย่างปลอดภัยนะ"
".....ดอกหญ้า.."
"ใช่....ดอกหญ้า ฉันเลือกมาไม่ผิดหรอก ลาก่อนนะ ฉันหวังว่าอนาคตฉันจะได้เจอกับนายอีกครั้ง" ฉันยิ้มให้เขาแต่เขาก็ไม่ได้ยิ้มตอบเขามองดอกไม้กำนั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองฉัน แล้วเขาก็ยิ้มแล้วเดินจากไป เราสองคนเดินออกไปพร้อมกันแต่ทางที่ไปกลับเป็นทางที่ตรงข้ามกัน ฉันและเขาตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกัน แต่อนาคตฉันก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าเราจะยังใช่เพื่อนกันอยู่หรือเปล่า เขาจะยังจำฉันได้ไหม แต่อย่างน้อยเราสองคนก็ทำตามฝันกันได้สำเร็จทั้งคู่........หวังว่าเธอคงจะรู้ความหมายนะ
ฉันรักเธอ แต่ขอเธออย่าผูกมัดฉันเลยนะ
ความหมายของดอกหญ้า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น